วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

Masters Of Horror Season 2


The Damned Thing by Tobe Hooper
เป็นผลงานผู้กำกับที่ฝีมือตกเอาตกเอาตั้งแต่ texas chainsaw massacre
แม้ จะกระเตื้องขึ้นนิดๆใน Toolbox murder แต่มาเรื่องนี้ไม่ดีกว่าซีซั่นที่แล้วเลย เพราะโทบี้เล่นตามใจฉันแต่เพียงอย่างเดียว ฉากเด็กถูกพ่อตัวเองไล่ล่าตอนเปิดเรื่องเป็นฉากที่ดีที่สุดในผลงานของเขาจาก ซีซั่น1และ2รวมกัน

Family by John Landis
จะ เกิดอะไรขึ้นเมื่อครอบครัวหนุ่มสาวย้ายมาใหม่และพบว่าเพื่อนบ้านเป็นฆาตรก รโรคจิตล่าเหยื่อแล้วนำโครงกระดูกมาตั้งโชว์พูดคุยยังกับเป็นคนในครอบครัว แต่เรื่องไม่ใช่แค่นี้เมื่อคู่หนุ่มสาวเพิ่งสูญเสียลูกสาวตัวน้อยก็มีความ ลับซ่อนอยู่เหมือนกัน

The V Word by Ernest R. Dickerson
2วัย รุ่นลองดีด้วยการเข้าไปในห้องเก็บศพ และพบว่าแวมไพร์ผีดูดเลือดมีอยู่จริง *แปลกมากที่เมคอัพของแวมไพร์รุ่นเดอะคล้ายกับเมคอัพของโจ๊กเกอร์ในหนังฮิต ตอนนี้ The DARK KNIGHT มาก แถมหน้าตาและการแสดงของนักแสดงคนนี้ยังไปเหมือนแจ๊ค นิโคลสันในแบทแมนของทิม เบอร์ตันยังกับแกะ

Sounds Like by Brad Anderson
เป็นตอนที่ใช้เทคนิคเสียงประกอบดีที่สุดเท่าที่ซีรีย์ชุดนี้มีมา
รอ คอยผลงานของผกก.รุ่นใหม่คนนี้ในอนาคต เสียอย่างเดียวไคลแม็กซ์ของเรื่องช้าไปหน่อย สงสัยว่าถ้าออกมาเร็วหนังจะจบเร็วกว่า60นาทีที่ผู้จัดกำหนด มีแววว่าไปไกลมากกว่าแค่เป็นแค่ผู้กำกับหน้าใหม่ของซีรีย์ masters of horrror

Pro-Life by John Carpenter
Rosemary's Baby เวอร์ชั่นคาร์เพนเตอร์ ฝีมือของเขาคงหวังใจว่าจะดีเท่าฮาโลวีนไม่ได้ แต่งานดนตรีประกอบของลูกชาย โคดี้ มีแววและน่าจับตามองมากกว่า โคดี้ได้รับเชื้อพ่อและปู่มาชนิดนอนตายตาหลับได้ว่าหากโคดี้ไม่ตามรอยพ่อ เป็นผู้กำกับ แต่ไปเอาดีทางเป็นคนทำดนตรีประกอบแถวหน้าได้สบาย อสูรกายพ่อ+ลูกออกแบบได้น่ากลัวเอามากๆ โดยอสูรกายตัวลูกเหมือนบูชางานเก่าเดอะ ติงของคาร์เพนเตอร์เอง


Pelts by Dario Argento
ดู แล้วไม่กระอักกระอ่วนมากเท่าตอนซีซั่นที่แล้ว เบื้องหลังทีมงานทุกคนอยากร่วมงานและนับถืออาร์เจนโต้มาก แต่ผลงานที่ออกมาเหมือนเอาฉากแหวะๆที่แฟนหนังคุ้นเคยมาใส่ต่อกันไปเรื่อยๆจน จบมากกว่า แต่ที่ไม่เคยเห็นในหนังอาร์เจนโต้มาก่อนคืออาร์เจนโต้ถ่ายให้เห็นสภาพศพของ เหยื่อก่อนแล้วจึงตัดย้อนว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนนี้ ทำให้ความสดของความน่ากลัวลดไปเยอะเลย


The Screwfly Solution by Joe Dante
เป็นตอนที่น่าจะไปอยู่ในซีรีย์ ดิ เอ็กซ์ไฟล์มากกว่า
บังเอิญ มากที่ได้ดูหนังเรื่อง THE SIGNAL ไล่เลี่ยกัน แถมมีเนื้อหาคล้ายกันซะอีก ดูหนังจบน่าคิดมากว่าถ้าโลกเราเป็นจริงอย่างในหนัง คงยุ่งน่าดู


Valerie on the Stairs by Mick Garris
นักเขียนหนุ่มเจอผีสาวตามหลอนโดยเธอถูกคุมขังโดยปีศาจร่างยักษ์ตัวดำ
รับบทโดยโทนี่ ท็อดด์
ดูจนจบอ้าวนี่มัน In the Mouth of madness ของคาร์เพนเตอร์นี่หว่า

Right to Die by Rob Schmidt
สามี จะทำยังไงเมื่อโดนภรรยาซึ่งอยู่ในสภาพโคม่าผิวโดนไฟไหม้เกรียม ตามหลอกหลอนและฆ่าผู้คนรอบข้าง ฉากแหวะที่สุดของตอนคือฉากหั่น-เหี้ยม-โหดเพื่อนำผิวหนังสดๆไปให้ภรรยา

We All Scream for Ice Cream by Tom Holland
เดา ตั้งแต่ดูตัวอย่างว่าคุ้นๆเหมือนกับเอาหนึ่งในตอน Tales from the Crypt มาทำใหม่ คนขายไอศรีมในคราบตัวตลกกลับมาแก้แค้นกลุ่มเด็กซึ่งทำให้เขาเสียชิวิต แต่คราวนี้การแก้แค้นมาในรูปแบบไอศรีม-วูดู

The Black Cat by Stuart Gordon
ไม่สมกับเป็นตอนของผกก. re-Animator
ดูแล้วง่วงมาก ไม่รู้ว่ากอร์ดอนจะให้หนังไปแนวไหน

The Washingtonians by Peter Medak
เป็นตอนที่ดูสนุกมากที่สุดและยกให้เป็นตอนที่ดีที่สุดในซีซั่นนี้
(ดีกว่าสปีชีย์2เยอะมาก)
เมื่อ ครอบครัวหนึ่งค้นพบความลับที่จะเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์อเมริกาว่าผู้นำประ เทศคือจอร์จ บุช เอ้ย..จอร์จ วอชิงตันชอบกินเนื้อคนเป็นชีวิตจิตใจ
เป็นตอนจบที่สะใจมากที่สุด แรงและตรงกว่า Homecoming ของซีซั่นที่แล้วหลายเท่าตัว

Dream Cruise by Norio Tsuruta
เป็น ตอนที่มีความยาวที่สุดในซีซั่นนี้ แรกๆเหมือนจะดี แต่พอผีเมียเก่าโผล่มาในรูปแบบมุขเดิมของหนังผีญี่ปุ่นตัวเขียวซีดๆ เลื้อยมาบ้างส่ายหัวมาบ้าง หนังไม่มีอะไรตื่นเต้นเลยนอกจากเมื่อไหร่จะจบซะที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น